การทำงานของลำโพง
ในการใช้งานไม่ใช่ระบบเสียงไฮฟายคำว่า ลำโพง โดยปกติจะหมายถึงว่าเป็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งซึ่งทำให้เกิดเสียงขึ้นมา เป็นอุปกรณ์ตัวเดียวในระบบไฮฟายที่มองเห็นรูปร่างของมันได้ชัดเจน แต่ในระบบไฮฟายลำโพงของระบบไฮฟายมักจะมีหน่วยไดรฟ์ 2 หน่วย หรือมากกว่าเป็นหน่วยไดรฟ์มีขนาดและชนิดแตกต่างกันซึ่งจะมักเรียกว่าระบบลำโพง แต่หน่วยไดรฟ์ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นของระบบไฮฟายหรือไม่ก็ตามีหลักการทำงานอย่างเดียวกันหมด คือ ใช้หลักการใช้ขดลวดเคลื่นที่หรือเรียกเป็นภาษาเทคนิคว่าใช้มูฟวิ่งคอยล์ (Moving Coil)
ในการทำให้อากาศสั่นตัวเพื่อให้เกิดเป็นคลื่นเสียงนั้น ตัวกรวยของลำโพงจะต้องเคลื่อนที่ไปข้างหน้าและข้างหลังได้อย่างอิสระ ด้วยเหตุนี้จึงต้องตั้งกรวยของลำโพงไว้ในบริเวณสภาพแวดล้อมที่มีความยืดหยุ่นสูง ตรงปลายกรวยของลำโพงมีรูปทรงกลมขนาดเล็กติดอยู่เรียกว่า วอยซ์คอยล์ (Voice Coil) ปลายทั้งสองข้างของวอยซ์คอยล์ต่อเข้ากับอินพุทของระบบลำโพง รอบ ๆ คอยล์มีแม่เหล็กถาวรตั้งอยู่ล้อมรอบ การจัดไว้เช่นนั้นจนเมื่อทำการทดสอบกรวยวอยซ์คอยล์แล้ว วอยซ์คอยล์จะวางตัวอยู่ในบริเวณสนามแม่เหล็กซึ่งมีความเข้มมาก
ถ้าหากมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านคอยล์มันจะเคลื่อนตัวไปข้างหน้าหรือข้างหลังในช่วงระหว่างขั้วแม่เหล็ก สัญญาณออดิโอซึ่งประกอบด้วยกระแสสลับหรือกระแสเปลี่ยนทิศทางด้วยความถี่ตรงกับเสียงดนตรีดังนั้นจึงทำให้กรวยของลำโพงเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นการทำให้เกิดคลื่นเสียง หน่วยไดรฟ์ของลำโพง ความจริงมีรูปแบบเช่นเดียวกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบง่ายๆ เท่านั้นเอง
หน่วยไดรฟ์ขนาดเล็กและมีราคาถูกๆ สามารถสร้างขึ้นมาให้เสียงได้ดี ให้เสียงฟังได้ยินอย่างชัดเจน ให้เสียงแบคกราวด์าของเสียงดนตรีในเครื่องรับโทรทัศน์หรือเสียงดนตรีในรถยนต์ แต่เมื่อนำหน่วยไดรฟ์เช่นนี้มาใช้ทำให้เกิดเสียงดนตรีที่มีความเพี้ยนน้อยที่สุดก็จำเป็นต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่มีความละเอียดลออมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ก็เพราะหน่วยไดรฟ์หน่วยเล็กๆ จะไม่มีการตอบสนองต่อความถี่ต่ำสุดและความถี่สูงสุดอย่างที่มีอยู่ในเสียงดนตรี
โดยปกติเสียงที่หูได้ยินจะมีย่านความถี่ตั้งแต่ 20 Hz (20 ไซเกิ้ลต่อวินาที) จนถึง
แต่เมื่อมองดูตลอดย่านความถี่เสียงจริงๆ จะพบว่าเสียงต่ำสุดที่เกิดจากเสียงเบสกีตาร์เป็นเสียงต่ำกว่า 50 Hz ในขณะเดียวกันเสียงสูงสุดของเปียโนเป็นความถี่ประมาณ 4 kHz ที่เหนือความถี่นี้ไปเป็นความถี่ฮาร์โมนิค ซึ่งทำให้เครื่องดนตรีชิ้นต่างๆ ให้เสียงแตกต่างกันไป ดังนั้นส่วนสำคัญของย่านความถี่จึงอยู่ระหว่าง 40 Hz ถึง 15 kHz ทั้งนี้ก็เพราะเสียงที่บันทึกได้ส่วนมากจะมีย่านความถี่ในย่านนี้ การส่งกระจายเสียงโดยวิทยุ FM ก็เช่นกัน จะให้ย่านการตอบสนองความถี่สูงสุดประมาณ 15 kHz ทั้งนี้ก็เพราะระบบเสียงที่ใช้ในขณะที่เครื่องเล่นเทปคานเซทเด็ค (Cassett Deck) โดยทั่วๆ ไปมักจะไม่ให้การตอบสนองเรียบสูงเกินไปกว่านี้ แต่ระบบบันทึกเสียงดิจิตอลสามารถให้การตอบสนองสูงถึง 20 kHz และต่ำลงมาถึง 20 Hz แต่ที่ความถี่ต่ำๆ เช่นนั้นเอาท์พุทจากลำโพงจะได้รับผลกระทบเพราะแฟคเตอร์อื่นๆ อีก อย่าง เช่น เรื่องขนาดของห้องฟังเป็นต้น